Turkish Airlines บิน Full Services ในราคา Low Cost
ฟรีทัวร์อิสตันบูล พร้อมโรงแรมหรู 5 ดาว
การเดินทางครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะ ตั๋วโปรฯพาไป โดยแท้จริง
ช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา ไม่ได้ไปไหน อยู่บ้านว่างๆ ก็นั่งหาตั๋วโปรฯ ไปเรื่อย และก็พบกับเส้นทาง Manila (Philippines) – Bogota (Colombia) ของสายการบิน Turkish Airlines ในราคา 12,000.- บาท เอาละว้าอเมริกาใต้ราคานี้ จะปล่อยผ่านไปก็คงเสียโอกาสอย่างแรง เมื่อหาแนวร่วมได้ ก็รีบกดกันเลยจ้า และแล้วอเมริกาใต้ก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่ฝันอีกต่อไป
รีวิวฉบับเต็ม Machu Picchu ระยะสั้น 13 วัน 4 ประทศ
https://www.thetravel2gether.com/machu-picchu-trips/
ช่วงเดินทาง 11-22 April 2018 จองตั๋วล่วงหน้า 4 เดือน
รูทการเดินทางตามนี้
Bkk – Manila by Cebu Pacific
Manila – Bogota – Manila (Transit at Istanbul) By Turkish Airlines
Manila – Bkk by Thai Airways
สำหรับรีวิวนี้ขอโฟกัสที่ Turkish Airlines ล้วนๆ เลยนะ
ขอแบ่งเป็น Part ของการรีวิวแบบนี้นะ
🙂 Part 1 : รายละเอียดต่างๆ ของสายการบิน และเครื่องบิน
😉 Part 2 : Free Tour Istanbul >> Touristanbul program
😀 Part 3 : Free Hotel
Part 1 : รายละเอียดต่างๆ ของสายการบิน และเครื่องบิน
ตั๋วโปรสายการบิน Turkish Airlines เส้นทาง Manila (Philippines) – Bogota (Colombia)
ราคา 12,000.- บาท สิ่งที่ได้รับดังนี้
ฟรี! น้ำหนักกระเป๋าโหลด 23 kg 2 ใบ ถือขึ้นเครื่องได้ 8 kg
ฟรี! เลือกที่นั่ง
ฟรี! อาหาร เครื่องดื่ม และเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ตลอดการเดินทาง
ฟรี! ทัวร์เมืองอิสตันบูล
ฟรี! โรงแรมหรู 5 ดาว
อย่างที่เกริ่นไว้ในตอนแรกตั๋วโปรฯ อเมริกาใต้ที่สอยมาได้ในราคานี้ มันไม่ได้เริ่มจากไทยค่ะ ต้องไปเริ่มที่ฟิลิปปินส์นู่นนนน จากไทยเราไปมะนิลากันโดย สายการบิน Cebu Pacific
สนามบิน Ninoy Aquino Intl (MNL)
- สนามบินหลัก สนามบินนานาชาติแห่งกรุงมะนิลา ในความคิดเรา..เราว่าที่นี่มันคล้ายๆ กับหมอชิตเลยอะ โคตรแออัด การจัดการก็ไม่ค่อยดี Duty Fee ก็มีของขายน้อย ใครที่มีเหตุต้องไปต่อเครื่อง หรือขึ้นเครื่องที่นี่ ต้องเผื่อเวลาไว้เยอะๆ หน่อยนะ กว่าจะเข้าสนามบินได้ ต้องต่อคิวยาวมากกกก
- Print หรือ Save Boarding Pass เอาไว้โชว์เจ้าหน้าที่ที่ทางเข้าสนามบินด้วยหละ ไม่งั้นจะเข้าไม่ได้ (เค้าอนุญาติให้เฉพาะผู้ทีมีเที่ยวบินเข้าไปใน Terminal เท่านั้น คนมาส่งต้องอยู่อีกโซนนึง) เดี๋ยวจะต้องเสียเวลาหาหลักฐานมาแสดงอีกว่าเรามีเที่ยวบินจริงๆ
- ยังๆ ความยุ่งยากของ Ninoy ไม่ได้จบแค่นั้น Terminal Low Cost กับ Full Service เค้าแยกออกจากกันชัดเจนจ้า แยกกันชนิดที่ว่าต้องนั่งรถต่อออกไปอะ ถ้ารถติดก็น่าจะใช้เวลาประมาณ 20 นาที ยังไงก็เผื่อเวลากันด้วยเด้อออออ

หลังจากฝ่าฝูงชนเข้ามาได้ ทำการ Check-in เรียบร้อย ก็ได้เวลาเดินทาง
*ทั้งขาไป ขากลับ กระเป๋ามัน check through ไปปลายทางเลยนะ ของใช้ส่วนตัวที่จะใช้ระหว่าง Transfer ก็แยกใส่กระเป๋าใบน้อยไว้ แล้วหิ้วติดตัวขึ้นเครื่องไปก็แล้วกัน*
TK85 Manila (Philippines) to Istanbul (Turkey)
ใช้เวลาในการเดินทาง 12 ชั่วโมง 25 นาที
เครื่องบินของไฟล์ทนี้คือ Boeing B777-300 ER
*ขากลับ TK84 Istanbul (Turkey) to Manila (Philippines) ก็บินด้วยเครื่องบินแบบเดียวกัน เล่าแค่ขาเดียวนะ*
ภาพภายใน Cabin คลิ๊กที่นี่
ภายในห้องโดยสาร
สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มีจอดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ได้ หัวเสียบชาร์จไฟแบบ USB
Amenities Bag ก็จะมีรองเท้า ถุงเท้า ที่ปิดตา ที่อุดหู Lip Balm แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ประมาณนี้ค่ะ
อาหารบนเครื่องจะมีเมนูแสดงไว้ให้ดูค่ะ
TK800 Istanbul (Turkey) to Bogota (Colombia)
ใช้เวลาในการเดินทาง 14 ชั่วโมง 10 นาที
เครื่องบินของไฟล์ทนี้คือรุ่น Airbus A330-200
*ขากลับ TK800 Bogota (Colombia) to Istanbul (Turkey) ก็บินด้วยเครื่องบินแบบเดียวกัน*
ภาพภายใน Cabin คลิ๊กที่นี่
บริการบนเครื่องบินก็ดีเยี่ยมไม่ต่างจากขามาเลยค่ะ
สำหรับ Part 1 ก็มาประมาณนี้แหละจ้า
Part 2 : Free Tour Istanbul >> Touristanbul program
Touristanbul program
- บริการพาทัวร์เมืองอิสตันบูล ฟรี ของเตอร์กิช แอร์ไลน์ เค้าค่ะ เปิดให้บริการผู้โดยสารระหว่างประเทศของเตอร์กิช ที่ต้องมารอต่อเครื่องที่สนามบิน Atatürk เมือง Istalbul ตั้งแต่ 6 ชั่วโมงขึ้นไป ซึ่งทริปนี้เราต้องรอต่อเครื่องกันประมาณ 20 ชั่วโมงแหนะ ตรงตามเงื่อนไข สามารถใช้บริการได้
- ทัวร์ที่เค้าพาไปก็รวมทุกสิ่ง ทั้งรถ ค่าเข้าชม และอาหาร 2 มื้อ (เช้า-กลางวัน) โดยรอบเวลาและสถานที่ที่พาไปสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ ที่นี่
จากมะนิลา เรามาถึงอิสตันบลูกันแต่เช้าตรู่ (5.10 am) หลังจากผ่าน ตม. และทำธุระส่วนตัวกันเรียบร้อย ก็มุ่งหน้าออกมาด้านนอก พอเจอตรงที่มีคนมาชูป้ายรอเยอะๆ ก็แล้วเลี้ยวขวาตรงไปยาวๆ จนสุดเลย ก็จะเห็นร้านสตาร์บัค แล้วก็เคาน์เตอร์ Hotel Desk ของเตอร์กิช ตรงข้างๆ กัน จะมีที่รับฝากกระเป๋าด้วย เราก็เลยเอากระเป๋าส่วนเกินไปฝากกันก่อนค่ะ
ค่าฝากสัมภาระ (ราคา APR 18)
ถุงพลาสติก 10 ลีร่า / กระเป๋าไซด์ M 20 ลีร่า / กระเป๋าไซด์ L 30 ลีร่า / กระเป๋าไซด์ XL 45 ลีร่า
หลังจากฝากกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ก็ไปแจ้งความจำนงที่เคาน์เตอร์ Hotel Desk ว่าเราต้องการจะใช้บริการฟรีทัวร์ รอบ 09.00-15.00 น. นะ (จริงๆ เราสามารถใช้สิทธิ์โรงแรมฟรีได้ด้วย แต่ขาไปเราไม่รู้ เลยใช้บริการโรงแรมขากลับ) เมื่อแสดง boarding pass เรียบร้อย ว่าเรามี connect flight จริงๆ ก็รอประมาณ 8.30 น. ให้มา standby แถวหน้าเคาน์เตอร์
มีโบชัวร์แสดงโปรแกรมและแผนที่เป็นภาษาอังกฤษแจกให้ด้วย
ออกแบบน่ารักเชียว (เช้าๆ ตายังลืมไม่ค่อยขึ้นจ้า)
ระหว่างรอ..ยังพอมีเวลา ก็เลยเดินไปซื้อตั๋วรถราง เพราะเราวางแผนกันไว้ว่าจะไม่อยู่จนจบโปรแกรมทัวร์ จะไปนั่งเรือเล่นกันต่อ เพราะเวลาเรามีเยอะมากกกกกกกกก
หัวหน้าทัวร์ของเรา มาเรียกชื่อแล้วจ้าาาาาา
นอกจากจะฟรีทุกอย่างแล้ว ยังมีผ้า Buff แจกให้คนละผืนอีกด้วยประใจเข้าไปใหญ่
ประโยชน์ของผ้าบัฟ ก็มีไว้โพกหัว พันคอ กันแดด กันหนาวค่ะ
ประมาณนี้
พานั่งรถโค้ทอย่างดี ออกไปทัวร์เมืองอิสตันบูลกันค่ะ ช่วงที่ราไปอากาศยังหนาวๆ อยู่เลย อย่างแรกทีทัวร์พาไปคือทาอาหารเช้าค่ะ
เป็นร้านอาหารที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว
อาหารเช้าก็เป็นแบบง่ายๆ ค่ะ เช่น ขนมปัง แยม ไข่ต้ม ชีส ตามรูป ไม่ค่อยถูกปากคนไทยที่รักการกินอาหารรสจัดกับข้าวแบบเราสักเท่าไหร่
หลังจากทานอาหารเช้าเรียบร้อย ก็เริ่มทัวร์กันเลยจ้า
*ทัวร์ใแบบฉบับของ Touristanbul ก็จะเน้นเดินค่ะ เดินแบบรีบๆ แวะชมที่ละแปปๆ ชะโงกทัวร์ประมาณนั้น สถานที่ที่เค้าพาชม จะอยู่ไม่ไกลกันมาก*
Hippodrome ในอดีตก็คือสนามแข่งม้า แข่งกีฬา มีเสา Obelisk (โอเบลิสต์) อยู่ตรงกลางเพื่อแบ่งพื้นที่ลานออกเป็น 2 ฝั่ง ฮิปโปโดรมถูกทำลายลงในช่วงสงครามครูเสด ปัจจุบันก็ใช้เป็นที่พักผ่อนของชาวเมือง
เสาโอเบลิสก์ ปัจจุบันมีเหลือให้เห็นอยู่ 3 ต้น ในภาพนี้คือ “เสาโอเบลิสก์แห่งเธโดเซียส” (Obelisk of Theodosius) เสานี้สร้างมาจากหินแกรนิตสีชมพู ถูกนำมาจากวิหารลักซอร์ อียิปต์โน่น
ส่วนอีก 2 เสา ได้แก่ “เสางู” (Serpentine Column) และ “เสากษัตริย์คอนสแตนตินที่ 7” (Column of Constantine VII)
Blue Mosque หรือ Sultan Ahmet Mosque เป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในตุรกี ชื่อ “Blue Mosque” ชื่อนี้มีที่มาจากสีของกระเบื้องอิชนิตที่ใช้ประดับตกแต่งภายในอาคาร
ที่นี่คือสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาอิสตันบูล เป็นที่ที่เราอยากไปมาก แต่ช่วงที่เราไป ปิดปรับปรุง ไม่สามารถเข้าไปด้านในได้ค่ะ ผิดหวังอย่างแรง T_T
ถ้าใครมีโอกาสได้เข้าชมภายในก็ต้องแต่งกายให้ถูกระเบียบเค้าด้วยนะคะ โดยผู้หญิงต้องแต่งกายมิดชิดตามแบบฉบับของชาวมสุสลิม หากไม่ได้เตรียมมา ทางมัสยิดเค้ามีบริการให้ยืมฟรีค่ะ
อีกมุม (ถ่ายจากด้านนอก)
ช่วงที่ไปที่อิสตันบูลลมีเทศกาลทิวลิปพอดีเลยค่ะ
Hagia Sophia (พิพิธภัณฑ์ฮาเยีย โซเฟีย) ผ่านเฉยๆ ไม่ได้เข้าชม สำหรับที่นี่แรกเริ่มเดิมทีถูกสร้างให้เป็นโบสถ์ค่ะ และต่อมาก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นมัสยิด ปัจจุบันคือพิพิธภัณฑ์ที่ผสมระหว่างศิลปะของคริสต์และอิสามเพียงหนึ่งเดียวในโลก ที่นี่เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ด้วยนะ
Topkapi Palace (พระราชวังทอปกะปึ) ที่นี่กว้างขวางใหญ่โตเวอร์วัง และแบ่งเป็นหลายโซนมาก ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเลยค่ะ เดินเหนื่อย คนเยอะ อากาศเริ่มร้อน
หลังจากใช้เวลาเยี่ยมชมส่วนต่างๆ ของพระราชวัง ก็ได้เวลาทานกลางวัน
ร้านอาหารที่เค้าพาไปก็จะอยู่ในบริเวณพระราชวังเนี่ยหละ บรรยากาศดีมากกกก มองเห็นทะเลมาร์มาร่าด้วย ชื่อว่าร้าน Konyali Restaurant
และนี่คือหน้าตาอาหารเที่ยงของเราจ่ะ รสชาติก็ดีกว่ามื้อเช้า
บรรยากาศในบริเวณพระราชวัง
เสร็จจากตรงนี้ทัวร์ก็จะพาเราไปช้อปปิ้งที่ Grand Bazaar ค่ะ รอบนี้เรามาเล็งๆ กันไว้ก่อนว่าขากลับจะซื้ออะไรกันบ้าง
เสร็จจากตลาดเราก็แจ้งความจำนงกับหัวหน้าทัวร์ว่าขอแยกค่ะ เค้าก็ให้เซ็นต์ชื่อ เรียบร้อยแล้วก็เป็นอันสิ้นสุดความรับผิดชอบของหัวหน้าทัวร์ หลังจากนี้หากไปสนามบินไม่ทัน ตกเครื่อง ก็ต้องรับผิดชอบตัวเอง

กิจกรรมที่เราตั้งใจจะทำกันในช่วงเย็นก็คือการล่องเรือค่ะ
Bosphorus Cruise การล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส เป็นการล่องเรือที่ Amazing มาก เพราะช่องแคบนี้มันแบ่งแผ่นดินระหว่าง ทวีปยุโรป กับ ทวีปเอเซีย เชื่อมระหว่าง ทะเลดำ กับ ทะเลมาร์มาร่า มีความยาวประมาณ 32 กิโลเมตร
สำหรับใครที่สนใจมาล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส ก็ให้นั่งรถรางมาลงที่สถานี Eminönü แล้วก็มุ่งหน้าไปบริเวณริมน้ำ ถ้าไปไม่ถูกก็ถามๆ เอา ไปไม่ยากหรอก
การล่องเรือของที่นี่มีหลายรูปแบบและหลายบริษัทมาก แบบที่เราเลือกก็คือล่องเรือชมวิวธรรมดาๆ ไม่ได้รวมอาหาร หรือลงเดินเที่ยวใดๆ ใช้เวลานั่งเรือกินลมชมวิว ชิวๆ 2 ชั่วโมง ค่าเรือคนละ 12 ลีร่า (ประมาณ 80 บาท) ถูกมาก เรือลำใหญ่เบิ้ม รู้สึกปลอดภัย มั่นใจ ได้มาตรฐาน
บรรยากาศริมฝั่งน้ำของแผ่นดินยุโรปและเอเชีย
ช่วงที่ไปถึงแม้จะเป็นเดือนเมษา แต่อากาศก็ยังค่อนข้างหนาวอยู่ ออกไปถ่ายรูปทีก็หนาวเกิ๊นนน เลยเก็บรูปมาได้ไม่เยอะค่ะ เน้นกินลมชมวิว ดื่มด่ำบรรยากาศยามเย็นของทั้งสองแผ่นดินกันแทน
Maiden ‘s Tower (หอคอยไมเดน) เป็นหอคอยที่สร้างอยู่กลางน้ำเลยค่ะ แต่เดิมใช้เป็นด่านเก็บภาษีเรือ หลังจากนั้นก็เป็นที่กักกันโรค ปัจจุบันที่นี่เป็นร้านอาหาร คาเฟ่ และพิพิธภัณฑ์
ใช้เวลากับกิจกรรมนี้ประมาณ 2 ชั่วโมง เรือก็กลับมาเทียบท่าตามเดิม
ยังมีเวลาเหลือ..ก็เลยเดินหาอะไรทานกันระหว่างทางไปเรื่อย
ลองชิมแซนวิชปลาแมคโคเรล อร่อยใช้ได้ ชิ้นโตมาก
ไอ้หอยนี่อะคือชอบมาก มันจะมีข้าวยัดอยู่ในหอยแมงภู่ ก่อนกินก็บีบมะนาวหน่อย แต่เรียกว่าอะไรก็ไม่รู้ ขายอยู่แถวๆ ท่าเรือนั่นแหละ มีหลายร้านเลย
อันนี้ก็ทีเด็ด ไอติมตุรกี แต่กว่าจะได้กินแต่ละแท่ง ต้องผ่านลีลา 100 กระบวนท่าของพี่เค้าก่อน
เสร็จจากตรงนี้ก็นั่งรถรงกลับไปสนามบินกัน
สำหรับ 1 วัน ใน Istanbal ของเรา ก็มีประมาณนี้แหละค๊าาาา
😀 Part 3 : Free Hotel
ขากลับจาก Bogota เรามีเวลารอเปลี่ยนเครื่องที่ Istanbul อีกประมาณ 16 ชั่วโมง คราวนี้ไม่พลาดที่จะขอใช้สิทธิ์โรงแรมฟรีค่ะ (ถ้าขาไปรู้ก็จะใช้ แล้วค่อยออกมาเดินเที่ยวกันเอง ฮาาาา)
กระบวนการก็ตามเดิม เหมือนตอนที่เราขอใช้บริการทัวร์ฟรี คือหลังจากผ่าน ตม. เรียบร้อยแล้ว ก็ตรงไปแจ้งความจำนงที่เคาน์เตอร์ Hotel Desk ของ Turkish เจ้าหน้าที่ก็จะขอดู Boarding Pass ว่าตรงตามเงื่อนไขหรือไม่
Hotel Service by Turkish Airlines
- ผู้โดยสารชั้นประหยัด ต้องมีเวลารอ Connect Flight ที่สนามบิน Atatürk 10 ชั่วโมงขึ้นไป สำหรับผู้โดยสารชั้นธุรกิจ 7 ชั่วโมงขึ้นไป
- ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ทุกไฟล์ทต้องบินโดย Turkish Airlines
- โรงแรมก็แล้วแต่สายการบินจะจัดให้ ส่วนใหญ่ก็จะเป็น 4-5 ดาว ค่ะ
หลังการแจ้งความจำนงเรียบร้อย ก็เจ้าหน้าที่รอเรียกไปขึ้นรถค่ะ
สำหรับโรงแรมที่เราได้ใช้สิทธิ์ในทริปนี้ ชื่อ Clarion Hotel เป็นโรงแรม 5 ดาว และก็เป็นโรงแรมที่ดีที่สุดสำหรับการเดินทางตลอด 12 วัน ของเราในทริปนี้ นอกนั้นก็เลือกพักแบบตามมีตามเกิดตามเงินในกระเป๋า ฮาาาา
ก็เลยรู้สึกประทับใจมากกับบริการของเตอร์กิช ในครั้งนี้
บรรยากาศของห้องนอน
ห้องน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในห้อง
หลังจากที่เรานั่งเครื่องบินกันมาอย่างทรหด ก็ขอนอนพักเอาแรงกันที่โรงแรมสุดหรูสักหน่อย พอได้ที่ ก็โบก Taxi ออกไป Shopping กันต่อที่ตลาด Grand Bazaar ชอปปิ้งจนหนำใจ หอบของกลับไปกันแบบอีรุงตุงนัง ก็โบก Taxi กลับโรงแรม แพคของจัดกระเป๋า แล้วก็นั่งรอให้รถมารับกลับไปสนามบินค่ะ

ของฝากยอดฮิต เช่น
- Turkish Delight
- ถั่วต่างๆ
- ถ้วน จาน ชาม โคมไฟ ลายสวยราคาถูก เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตุรกี
จบแล้วทริปตุรกีของเรา มีโอกาสต้องกลับไปซ้ำอีกแน่นอน
สำหรับสายการบิน Turkish Airlines
โดยรวมก็ประใจมาก ทั้งบริการบนเครื่องบิน (ถึงอาหารจะอร่อยบ้าง ไม่อร่อยบ้างก็เถอะ) ทั้งบริการเสริมที่โคตรดี โคตรคุ้ม ทั้งทัวร์ฟรีอิสตันบูล และโรงแรมฟรีค่ะ
เกี่ยวกับทริปอเมริกาใต้ของ Travel Together
ขอวีซ่าโคลอมเบีย 2018
ขอจบการรายงานเพียงเท่านี้
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ

ฝ้ายเอง