The Real Ba Na Hills : บานาฮิลล์ ที่แท้จริง
ถ้าพูดถึงเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม นอกจากภาพทะเลสวยๆ แล้ว
บานาฮิลล์ ก็เป็นอีกหนึ่งที่ ที่เป็นเป้าหมายของเหล่าผู้มาเยือน
ด้วยความที่ ดานัง อยู่ไม่ไกลจากไทย ใช้เวลาบินแค่ 1.20 ชั่วโมง แถมค่าครองชีพของเวียดนามก็ไม่ได้แพงจนเกินไป เมืองนี้จึงเป็นที่นิยมของคนไทยเอามากๆ
บานาฮิลล์ เมืองสไตล์ฝรั่งเศสที่ตั้งอยู่บนยอดเขา จึงทำให้มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี แต่เดิมคือสถานที่พักตากอากาศของชาวฝรั่งเศส ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้ง 1 โน้นน ปัจจุบันกลายมาเป็นที่ตั้งของโรงแรมเมอร์เคียว ฟรานซ์วิลเลจ และมีสวนสนุกอยู่บนนั้นด้วย
ตอนกลางวันนักเที่ยวจะเยอะมากๆๆ เพราะคนที่ไม่ได้พักโรงแรม ก็สามารถขึ้นมาเที่ยวชมบรรยากาศ เล่นเครื่องเล่นในสวนสนุก และไปเดินเล่นถ่ายภาพบนสะพานมือ (Golden Bridge) ได้
ยามเย็นหลัง 5 โมงเย็น เป็นต้นไป บนนี้จะเหลือแค่เพียงแขกที่มาพักกับโรงแรมเท่านั้น คนน้อยลงไปถนัดตา และช่วงเวลานี้แหละ ที่เราจะสามารถสัมผัสกับความงดงาม และความโรแมนติกของบานาฮิลล์ที่แท้จริงได้
มีคลิปด้วย ฝาก subscribe ด้วยนะ
https://www.youtube.com/watch?v=qdtdIiivp8M
นั่งกระเช้าไปเที่ยวฝรั่งเศส
จากสนามบินดานัง เราเรียก Grab Taxi เพื่อไปยัง Thac Toc Tien ซึ่งเป็นจุด Check in ของแขกที่จะขึ้นไปที่โรงแรมด้านบน โดยเราจะขึ้นกระเช้ากันที่จุดนี้
ใช้เวลานั่งประมาณ 20 นาที ระยะทางเกือบ 6 กิโลเมตร กระเช้าเส้นนี้เป็นเส้นที่ยาวที่สุดในโลก วิ่งตรงโดยไม่มีการแวะพัก หลังจากลงกระเช้าเราก็จะมาถึงฝรั่งเศสกันแล้ว
สำหรับคนที่ขึ้นมาเที่ยวหรือมาพัก จ่ายค่ากระเช้าแค่ตอนขึ้นมารอบเดียว จะนั่งไปจุดไหน กี่รอบก็ได้
แต่อย่าลงไปสุดก็แล้วกัน เพราะถ้าจะกลับขึ้นมาใหม่ คือต้องจ่ายอีกรอบ
ราคากระเช้าคือรวมค่าเข้า ค่าเครื่องเล่นในสวนสนุกด้านบนแล้วด้วยนะ
The Real Ba Na Hills
ขอตัดภาพมาที่ Ba Na Hills ยามค่ำคืนเลยแล้วกัน เพราะความงดงามที่แท้จริงของบานาฮิลล์มันอยู่ในช่วงเวลานี้แหละ อย่างที่บอกในตอนแรก หลังจาก 5 โมงเย็นเป็นต้นไป หมู่บ้านฝรั่งเศสบนยอดเขาแห่งนี้จะเหลือแค่เฉพาะแขกที่พักค้างที่โรงแรมเท่านั้น ส่วนคนที่ขึ้นมาเที่ยวแบบ 1 day trip ต้องรีบลงไปข้างล่างให้ทันก่อนที่กระเช้าเที่ยวสุดท้ายจะปิดลง
Vanilla Sky เมื่อท้องฟ้าเริ่มเซ็กซี่ ความงามที่แท้จริงก็เริ่มปรากฎตัวขึ้น
จาก Vanilla Sky มาสู่ช่วง Twilight
บนนี้จะมีหมอกเกิดขึ้นตลอดเวลา ยิ่งช่วงค่ำแบบนี้ คือแบบ อื้อหือออออออ นึกถึงฉากขอแต่งงานขอเจ้าชาย เจ้าหญิงในเทพนิยายเลย
แสงไฟ อากาศเย็นๆ มันช่างเข้ากับสิ่งปลูกสร้างของที่นี่จริงๆ เดินเล่นกันเพลินเลย ไม่ว่าจะเดินไปมุมไหนก็ถ่ายรูปเดี่ยวได้ เพราะคนแทบไม่มี
อาคารทุกหลังจะเป็นส่วนของที่พักและร้านอาหาร ถ้าเราโชคดีได้ห้องพักวิวดี มองลงมาก็จะเห็นวิวหมู่บ้านฝรั่งเศสอันงดงาม
ดูบรรยากาศยามค่ำคืนของที่นี่สิ คือดีมากๆๆๆ
มีเสน่ห์ในทุกตารางนิ้ว
ภาพนี้ถ่ายจากตึกที่เราพัก (เราได้ห้องพักวิวไม่ดีอะ)
บานาฮิลล์ในยามที่ไร้ผู้คน ในที่สุดก็เผยโฉมความงามที่แท้จริงออกมา
บรรยากาศแบบนี้คนที่ไม่ได้พักค้างบนนี้ ไม่โอกาสได้สัมผัสนะ
โบสถ์นอร์ทเทอร์-ดามจำลองหลังนี้จำลองมาขากหลังจริงที่ปารีส แต่เป็นขนาดที่ย่อส่วนลงมามากๆ
การเล่นสี เล่นไฟ คือทุกองค์ประกอบมันสวยงามลงตัว
ระฆังคู่มุมนี้ดูแล้วเซ็กซี่ดีจัง
Private สุดๆ คนน้อยมากๆ สำหรับความงดงามที่แท้จริงของ Ba Na Hills ก็จะโรแมนติกประมาณนี้แหละ ยิ่งคนน้อยมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งได้สัมผัสกับบานาฮิลล์ที่แท้จริงมากเท่านั้น
ร้านอาหาร
มาพูดถึงในส่วนของร้านอาหารกันบ้าง บนนี้มีห้องอาหารให้เลือกหลากหลายมาก ทั้งแบบบุฟเฟ่ต์ แบบ A la cart หรือแม้กระทั่งลานเบียร์
ส่วนวันนั้น เราเลือกทานกันที่ห้องอาหาร La Crique เป็นอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ ราคาตกคนละประมาณ 3-400 บาท คุ้มมาก เพราะอาหารมีให้เลือกหลากหลายเลย เป็นอาหารนานาชาติ อาหารเวียดนามก็มีให้เลือกเยอะ เมนูซีฟู้ดก็จะเป็นปลาหมึก กับกุ้ง
ห้องพัก
พามาดูในส่วนของห้องพัก ห้องที่เราเลือกเป็นแบบห้องธรรมดา ขนาดกำลังน่ารัก ใครอยากมาพักบนนี้ต้องรีบจองหน่อยนะ เพราะห้องเค้าเต็มตลอด ส่วนเราจองผ่าน Booking.com
จองผ่านลิงค์นี้ได้เครดิตเงินคืน 550 บาท (สำหรับสมาชิกใหม่ที่ทำการจองครั้งแรกเท่านั้น)
https://www.booking.com/s/57_6/worapa11
ห้องพักถึงจะไม่กว้างมาก แต่สิ่งอำนวยความสะดวกก็มีให้ครบ มีทั้งแอร์ ทั้งพัดลม ทั้งฮีตเตอร์เลย
สระว่ายก็มีนะ เป็นสระน้ำอุ่นแบบ indoor แช่กันสบายตัวเลย
Ba Na Hills ตอนช่วงวัน
มาดูบานาฮิลล์ในช่งเวลาปกติ ช่วงที่นักเที่ยวทั่วไปสามารถขึ้นมาเที่ยวได้กันบ้างดีกว่า
คือตอนกลางวันก็สวยแหละ แต่คนเยอะไปหน่อยต้องแย่งกันถ่ายรูป คิดซะว่าคึกคักดีก็แล้วกัน
กว่าจะหามุมไร้คนเจอ
มุมนี้ถ่ายจากชั้นที่เราพัก วิวดีเชียว
หมอกลงตลอด ทั้งกลางวัน กลางคืน
หมู่บ้านฝรั่งเศสบนเขาแห่งนี้ มีครบทุกอย่างจริงๆ ทั้งวัด ทั้งสวนสนุก ทั้งโบสถ์
สวนสนุก จะมีทั้งโซน Indoor กับ Outdoor เครื่องเล่นก็มีพอสมควร ค่าเข้า ค่าเครื่องเล่นก็รวมมากับค่าขึ้นกระเช้าแล้ว แทบจะไม่ต้องเสียอะไรเพิ่ม
วัดนี้จะอยู่ในส่วนของ Spiritual Zone เป็นจุดสูงสุดของบานาฮิลล์ อย่าพลาดที่จะเดินขึ้นไปบนหอระฆังนะ เพราะด้านบนคุณจะได้พบกับวิวแบบนี้
วิวของบานาฮิลล์ทั้งเมือง สวย อลังการ กว้างใหญ่มาก
มองมาอีกด้านก็จะพบกับวิวธรรมชาติกว้างไกลสุดสายตา
Golden Bridge หรือสะพานรูปมือ
แลนด์มาร์คสุดฮิตที่ใครไปดานังต้องไม่พลาด สำหรับใครที่พักบนบานาฮิลล์ถ้ารีบตื่นแต่เช้าจะได้เปรียบมากๆ เพราะคนยังไม่เยอะ ต้องรีบไปก่อนที่กระเช้าจะเปิดให้คนจากด้านล่างขึ้นมา
คนยังไม่เยอะเท่าไหร่
นี่คือคนยังไม่เยอะจริงๆ นะ คิดดูถ้าคนเยอะจะมหาศาลขนาดไหน เพราะฉะนั้นถ้าใครขึ้นมาค้างบนนี้ ต้องรีบตื่นไปที่นี่แต่เช้า
จากสะพานมือ เราก็ไปที่สวนดอกไม้กันต่อ
แล้วก็ขอแวะอีกสักวัด
สำหรับที่นี่ เราชอบมากกก บรรยากาศดี ไม่แพงมากด้วย เหมือนได้ไปเที่ยวฝรั่งเศสในราคาเวียดนามอะ ถ้ามีคนชวนไปอีกก็ไปนะ ชอบมากๆ
ดานัง เมืองชายทะเลอันงดงาม
สำหรับดานัง อันนี้แถมให้ ทริปเราไปกัน 3 วัน 2 คืน นอนบนเขาคืนนึง นอนริมทะเลคืนนึง เลยเก็บภาพบรรยากาศของทะเลที่นี่มาฝากด้วย
เมื่อลงมาถึงด้านล่างเราให้พนักงานของโรงแรม เรียกแท๊กซี่ไปยังที่พักเมืองดานังให้ค่ะ
ราคาอยู่ประมาณ 450,000 vnd นั่งมาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึง
หลังจากเอาเชคอินโรงแรมที่ดานังเรียบร้อย ก็ชวนกันออกไปเดินเล่นริมทะเลที่ชื่อว่าหาด My Khe (หมีเค) ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับที่พักเลย
ชายหาดนี้เป็นหาดที่มีชื่อเสียงของเมืองดานังเลยแหละ
พอใกล้มืดก็เดินเล่นหาของกินไปเรื่อย และก็มาจบที่ริมแม่น้ำฮัน เพื่อมาชมความงดงามของ Dragon Bridge
ช่วง 3 ทุ่ม จะมีโชว์มังกรพ่นไฟ
ตรงริมแม่บรรยากาศมาก
สำหรับดานังของเราก็มีประมาณนี้แหละค่ะ ถ้าขยันก็จะมีภาคต่อ 2 วัน 1 คืน ที่ฮอยอัน คือภายในเวลาไม่ถึงปีเราไปดานังมา 2 ครั้ง ครั้งแรก บานาฮิลล์ + ดานัง ครั้งที่ 2 ฮอยอัน เมืองเดียว
ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมถึงไม่รบทริปแล้วไปครั้งเดียวเลย
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ
ฝ้ายเอง
ติดตามเรื่องราวอีกมากมาย ได้ที่
https://www.thetravel2gether.com/