ล่องเรือไม้ แต่งกายโบราณ กินอาหารพื้นถิ่น
ชมพระอาทิตย์ตกดินกลางทะเลอันดามัน
อีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาระนอง คือการล่องเรือไม้โบราณในยามเย็น
สัมผัสวิถีชีวิตชาวเล ย้อนเวลาสู่อดีต ตามรอยเสด็จประพาสของรัชกาลที่ 5
ความพิเศษของทริปนี้ นอกจากได้เพลิดเพลินกับบรรยากศยามเย็น กลางทะเลระนอง
อิ่มหนำสำราญกับอาหารพื้นเมืองโบราณและอาหารทะเลแล้ว
ยังได้แต่งกายย้อนยุคแบบคนระนองในสมัยก่อน (ย่าหยา-บาบ๋า)
พร้อมทั้งได้เรียนรู้เส้นทางล่องเรือประวัติศาสตร์ ครั้งเมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่รัชกาลที่ 5
ทรงเสด็จประพาสแหลมมลายูอีกด้วย
ทริปล่องเรือไทม์แมชชีนระนอง ร.ศ.109 (Royal Andaman)
Facebook Page : Royal Andaman
Tel : 080956 6647
Line : royalandamantour
E-mail : theroyalandamanthailand@gmail.com
เวลา : 16.00 – 20.00 pm.
ราคา : 1,500 บาท
** มีชุดไทย (ย่าหยา-บาบ๋า) ให้เปลี่ยนบนเรือ มีช่างภาพไว้คอยบริการโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม หลังจบทริปสามารถเข้าไปชมภาพได้ ใน Facebook Page : Royal Andaman Tour Photo **รายละเอียดการเดินทาง และช่วงเวลา : ตามภาพ
พร้อมรึยังที่ย้อนเวลาไปชมระนองในอดีต ถ้าพร้อมกันแล้วก็ตามมาเลย
จุดนัดพบ : ประมาณ 15.30 เราก็ต้องไปพร้อมกันที่ท่าเรือประภาคารค่ะ ซึ่งด้านบนจะเป็นร้านกาแฟ
ขึ้นไปนั่งรอ พร้อมชมวิวเก๋ๆ ของทะเลระนองกันได้
นั่นไง..เรือไม้โบราณ พร้อมแล้วที่พาเราย้อนเวลากลับไปสู่อดีต ยุค 0.4
เรือไม้ลำนี้จะแบ่งเป็น 2 ชั้น หลักๆ นะคะ
ชั้นแรก สำหรับรับประทานอาหาร
ชั้นดาดฟ้า บริเวณนี้จะชิวมาก มีที่นอนที่นั่งเอาไว้นั่งรับลมยามเย็นกัน
แถมมีนักดนตรีมาดีดกีต้าร์ ร้องเพลงให้ฟังกันแบบสดๆ ด้วย
ใครสนใจร่วมแจมก็ได้เลยนะคะ
เมื่อก้าวลงเรือก็จะได้สัมสผัสกับการต้อนรับที่แสนอบอุ่น โดยพี่ๆ ทีมงานของ Royal Andaman
จะนำมาลัยดอกไม้ มาคล้องคอให้กับผู้ร่วมทริปทุกคน
โดยทุกโต๊ะจะมีชื่อผู้จองวางไว้ (ช่วยลดความวุ่นวายในการเลือกที่นั่งลงไปได้เยอะ)
และก็จะมีชุดไทยพื้นถิ่น (ทั้งชายและหญิง) วางไว้ให้เปลี่ยน สำหรับทุกคนด้วยค่ะ
Welcome Drink น้ำส้มจี๊ด หวานๆ เปรี้ยวๆ ดื่มแล้วเย็นชื่นใจ (น้ำผลไม้ น้ำอัดลมอื่นๆ ก็มี สามารถเติมได้ตลอด)
แม่มณี ผู้นี้จะคอยอำนวยความสะดวก และอธิบายเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความเป็นมา
ทุกสิ่งอย่างตลอดเส้นทางให้เราได้ทราบโดยทั่วกัน
บรรยากาศของวันนั้น ^^
เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง เราก็มาเปลี่ยนชุดกันค่ะ
เพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์ของการย้อนเวลาในครั้งนี้ (จะได้สมจริง ฮาาา)
ชุดสำหรับผู้หญิงเรียกว่า ชุดย่าหยา ค่ะ
ใส่ง่ายแค่สวมทับ เครื่องประดับ สร้อยคอ มงกุฎดอกไม้ เค้าก็เตรียมไว้ให้พร้อม
ชุดสำหรับผู้ชายเรียกว่า บาบ๋า โดยสจะมีเสื้อกับหมวกเตรียมไว้ให้เช่นกันจ้า
เรือจะพาเราล่องไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางสายประวัติศาสตร์ โดยไม่ได้แวะจอดที่ไหน
ก็เพลิดเพลินกับบรรยากาศยามเย็น ฟังดนตรี ร้องเพลง ถ่ายรูปเล่นกันไป
บริเวณชั้นบน คือชิวมาก ลมเย็นๆ หลับได้เพลินๆ เลย
ดนตรีสด เล่นกันบนดาดฟ้านั่นแหละ ฟังเพลงไป ชมวิวไป หรือใครอยากไปร้องเพลงโชว์ลูกคอก็ตามสบาย
ช่วงเวลาโรแมนติก ตะวันกำลังจะลาลับ
ทุกอย่างบริเวณนั้นก็กลายเป็นสีทอง
และแล้วก็ถึงเวลาอาหารเย็น (ประมาณ 18.30 น.)
เมนูอาหารเย็นบนเรือมีอะไรบ้างหนะหรอ..
ขอแบ่งออกเป็น 2 ชุดแล้วกัน ชุดแรกเป็นเมนูซีฟู๊ดค่ะ ชุดที่สองเป็นอาหารดั้งเดิมของชาวระนอง
ชุดแรก เมนูซีฟู๊ด กุ้งค๊อกเทล / ปูนึ่ง / ปลาหมึกลวก / ยำทะเล โดยมีน้ำจิ้มรสจัดจ้าน เสิร์ฟมาให้ด้วย
ชุดที่สอง เมนูอาหารโบราณระนอง ข้าวมันลอกอยอก และ ลอหมี่ปู ในปัจจุบันหาทานยากมาก
ข้าวมันลอกอยอก คือการนำข้าวมันมาทานคู่กับส้มตำมะละกอ
(ใส่กุ้งเคยและกะปิคลุกรวมกับเส้นมะละกอ เป็นส้มตำแบบระนอง)
และทานคู่กับปลาเค็ม โดยห่อด้วยใบมะยม (วัยรุ่น)
ภาษาระนอง “ลอกอ” แปลว่า มะละกอ ส่วน “ยอก” คือการนำมาคลุกให้เข้ากัน
ลอหมี่ปู อาหารมงคลของคนระนองแท้ๆ ใช้ในการอวยพรแขกให้มีอายุยืน และเจริญรุ่งเรือง
โดยนำ เส้นหมี่ มาทานคู่กับ น้ำซุปปู
ก่อนทานแม่มณีบอกว่า ให้กวนเส้น 3 ครั้ง โดยผู้หญิงวนซ้าย ผู้ชายวนขวา
จากนั้นก็อธิษฐานขอพร แล้วก็ราดน้ำซุปลงบนหมี่ พร้อมรับประทานได้
หลังจากทานคาวแล้วก็ต้องล้างปากด้วยขนมมหวาน
ดูจากอาหารโบราณพื้นถิ่นของที่นี่ เมนูของหวานก็คงจะไม่ธรรมดา
และก็ไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะเมนูขนมหวานของเค้าคือ ขนมน้ำหอม
หอม หวาน สมชื่ม กินแล้วสดชื่นมากๆ
ก่อนเรือจะเข้าฝั่งก็มีอีกหนึ่งกิจกรรมไฮไลต์ นั่นก็คือการ ลอยพรกพร้าว
ลอยพรกพร้าว ประเพณีของชาวเลในอดีต เพื่อขอบคุณพระแม่คงคา
กะลามะพร้าว คือ สัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ นำมาใส่ดอกไม้และเทียนไข
ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสุข นำมาลอยกลางทะเลในการล่องเรือกลับเข้าฝั่ง
เพื่อขอบพระคุณพระแม่คงคาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งสายน้ำและท้องทะเล
พรกพร้าว ภาษาระนองหมายถึง กะลามะพร้าว
บรรยากาศยามค่ำคืนบนเรือ
โรแมนติกสุดๆ ไปเลยจ้า
ก่อนกลับก็มาย่อยอาหารกันนิดนึง นำทีมโดยแม่มณีคนดีคนเดิม
และประมาณ 2 ทุ่ม ก็กลับทุกฝั่งกันอย่างปลอดภัย โดยได้รับความประทับใจกันไปเต็มๆ
ยังไงก็ขอบคุณทีี่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ
ทริปต่อไป จะพาไปไหน โปรดติดตาม
ฝ้ายเอง