Oriental Residence Bangkok ความสงบใจกลางกรุงเทพ
การพักผ่อนแบบมีระดับ บทสรุปของความหรูหรา ย่านถนนวิทยุ
หลังจากได้ลองไป Staycation ที่โรงแรมสุดหรูใจกลางเมืองย่านธุรกิจบนถนนวิทยุ อย่าง Oriental Residence Bangkok มาแล้ว ยอมรับว่า ตอนนี้ได้เสพย์ติดความสบายของการพักผ่อนในโรงแรมแบบ Service Residece ไปแล้ว และจะมาเล่าถึงที่นี่ให้ได้อ่านกัน..
Oriental Residence Bangkok
ที่นี่ตั้งอยู่บนถนนวิทยุตรงกลางระหว่างสถานทูตอเมริกากับเนเธอร์แลนด์
Tel : 02 125 9000
website : Click Here
fb Page : www.facebook.com/OrientalResidenceBKK/
Instagram : @orientalresidencebkk
มาตราการความสะอาด
เรื่องแรกที่จะขอพูดถึงในช่วงเวลาแบบนี้ คือ มาตราการการทำความสะอาดของที่นี่ เรื่องนี้มั่นใจได้เลย เพราะทั้งหมดนี่คือขั้นตอนการปฏิบัติในเรื่องความสะอาด และความปลอดภัยของโรงแรมในเครือ Onyx (โอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ เป็นโรงแรมที่อยู่ในเครือ Onyx)
Lobby
ทางเข้าบ้านเป็นสิ่งแรกที่สามารถสร้างความประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน และแน่นอนว่า Lobby ที่นี่สามารถทำหน้าที่นั้นได้ดีมาก ” น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ “ คือนิยาม..ที่ขอมอบให้กับบ้านหลังนี้
Lobby ขนาดกะทัดรัด กับมุม Check-in เล็กๆ ถูกออกแบบให้เพดานสูงโปร่ง ทำให้รู้สึกไม่อึดอัด ตกแต่งด้วยกรอบรูปที่ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ช่วยเพิ่มความเรียบหรูให้กับที่แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี
ขอเล่า Detail เพิ่มเติมอีกนิด คือที่นี่จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน
ส่วนแรก ห้องชุดสุดหรู จำนวน 46 ยูนิต
ส่วนที่สอง Service Residence (โรงแรม) จำนวน 145 ยูนิต
โดยลิฟท์ก็จะแยกโซนชัดเจน ไม่ได้ใช้ร่วมกัน เรียบหรูยันโถงรอลิฟท์
ห้องพัก
หลังจากทำการ Check in รับ Key Card เรียบร้อย ก็ขึ้นไปชมห้องกันเลย วันนี้เราพักกันที่ชั้น 14 เป็น Room Type แบบ One Bedroom Corner Suite
คุณ Bellboy ยกกระเป๋าสัมภาระตามมาให้ พร้อมกับให้คำแนะนำเกี่ยวกับห้องพักอยู่ที่หน้าห้อง ช่วงนี้ทาง รร. มีมาตราการเรื่องความสะอาดค่อนข้างเข้มข้น คือหลังจาก Clean ห้อง เพื่อเตรียมรับแขกเรียบร้อยแล้ว พนักงานก็ห้ามเข้าไปภายในห้องพัก แต่จะยืนให้คำแนะนำต่างๆ อยู่ด้านหน้า
One Bedroom Corner Suite
ห้องที่เราพักในครั้งนี้ เป็นห้องหัวมุมวิวดีมาก ขนาด 70 ตร.ม. ด้านนึงเป็นวิวเมือง อีกด้านสามารถมองเห็นบรรยากาศภายในของสถานทูตอเมริกา แบ่งสัดส่วนชัดเจน เป็น 1 ห้องนอน กับห้องนั่งเล่น และ Pantry สำหรับเตรียมอาหาร พร้อมอุปกรณ์ครัวแบบครบครัน
ออกแบบตกแต่งด้วยโทนสีเขียวแบบเรียบง่าย แต่หรูหรา เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น แต่ครบถ้วนทุกการใช้งาน ที่ชอบมากๆ คือ พื้นที่ทำจากไม้จริง
ห้องนั่งเล่น และ Pantry
สิ่งอำนวยความสะดวกครบมากๆ ทีวี โซฟา โต๊ะทานข้าว เครื่องชงกาแฟ ไมโครเวฟ และเครื่องครัวต่างๆ
เครื่องครัวมีให้ทุกสิ่ง มีแม้กระทั่ง น้ำยาล้างจานและฟองน้ำ
ตู้เย็นคือมีเครื่องดื่มพร้อมมาก (นอกเหนือจากน้ำเปล่า และชา กาแฟแบบซอง มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
โซฟานุ่มนิ่ม สบายมาก
ห้องนอน
ในส่วนของห้องนอนก็จะมีกระจกบานใหญ่ ไว้ให้ชมวิวเมืองจากเตียงนอน เตียงนิ่มดูดวิญญาณมาก ที่ประทับใจสุดๆ คือ หมอน เป็นหมอนที่ทำให้นอนหลับสบายมาก
ห้องนอนยามค่ำคืน
ห้องน้ำจะอยู่ในส่วนของห้องนอน
ห้องน้ำ
ห้องน้ำที่นี่กว้างขวางมาก แบ่งสัดส่วนชัดเจน โซนเปียกแห้ง ห้องสุขา ห้องอาบน้ำ อ่างอาบน้ำ อ่างล้างหน้า โต๊ะแต่งหน้า
ชุด Amenity Kit มีให้ครบทุกอย่าง สบู่ แชมพู ครีมนวด โลชั่น มีกลิ่นหอมแบบสากล (กลิ่นไม่ไทย) Bubble Bath เตรียมไปเอง
ส่วนตู้เสื้อผ้าจะแยกออกมาอยู่ในโซนห้องนอน มีโต๊ะรีดผ้ากับเตารีดให้ด้วย
วิวห้องพัก
นี่คือวิวที่เราสามารถมองเห็นจากระเบียงและกระจกห้องพัก วิวเมืองกลางวันดีมาก แต่เสียดายวันที่ไป PM2.5 หนาแน่นมาก
บรรยากาศตอนกลางคืน แสงสีเมืองกรุงชวนให้ลุ่มหลง
หลังจากพักผ่อนหลับสบายอย่างเต็มอิ่ม ตื่นมาก็รู้สึกเป็นเช้าวันใหม่ที่สดชื่นมากกก
Facilities
ถ้าในยามปกติที่นี่จะมี Facilities อย่างครบครัน ทั้งฟิตเนส ห้องประชุมสัมมนา จัดเลี้ยง แต่เราไปในช่วงที่เปิดบริการแค่สระว่ายน้ำ
สระว่ายน้ำ
อยู่บริเวณ Play Deck ชั้น 4 เป็นสระว่ายน้ำกึ่ง Indoor กึ่ง Outdoor และยังคง Concept ของความหรูหรา เพราะสระน้ำที่นี่ปูด้วยหินโมเสคสีขาวผสมทอง และมีความยาวถึง 20 เมตร
ห้องอาหาร
Cafe Claire คือ ห้องอาหารหลักของที่นี่ อยู่ชั้น 1 เลย เป็นห้องอาหารสไตล์คาเฟ่ ตกแต่งแบบคลาสสิคทันมัย เรียบง่าย เปิดให้บริการทั้งมื้อเช้า กลางวัน และค่ำ ซึ่งเราก็ฝากท้องไว้ที่นี่ 3 มื้อด้วยกัน
มื้อเช้า เป็น Complimentary ของโรงแรมอยู่แล้ว ในช่วงนี้ทางโรงแรมไม่ได้จัดเป็นไลน์บุฟเฟ่ต์ แต่เสิร์ฟให้เป็น Set แบบสั่งได้ไม่อั้น ซึ่งเป็นมื้อเช้าที่ดีมากๆ มีอาหารหลากหลายให้เลือก ทั้งคาว หวาน และอาหารเพื่อสุขภาพ
จานนี้คือ Signature Egg Norwegian
ส่วนชุดนี้ Asean Breakfast ประกอบไปด้วย ชุดติ่มซำ และ โจ๊กไก่
ของหวานกับอาหารเพื่อสุขภาพ “Belgian Waffles” และ “Super Food Bowl” เครื่องดื่มสั่งได้เรื่อยๆ รวมถึงกาแฟสด และมะพร้าวที่เสิร์ฟมาทั้งลูก
พอได้ลองทานอาหารเช้าแบบนี้แล้วรู้สึกชอบกว่าบุฟเฟ่ต์อีก ไม่ต้องเดินตัก เค้าเสิร์ฟเป็นชุดมาให้เลย ที่สำคัญคือจะทานกี่ชุดก็ได้
มื้อค่ำ เราลองเป็นอาหารสไตล์ฝรั่งเศส ราคา 800 บาท++
ทานกัน 2 คน เลยเลือกมาแบบไม่ซ้ำกัน ไก่ดี ปลาก็ดี แต่ที่ประทับใจสุดๆ คือซุปฟักทอง อร่อยเข้มข้นมาก (ไม่ได้ถ่ายภาพมา ขออภัย)
มีขนมหวานปิดท้ายให้ด้วย
Afternoon Tea ชุดน้ำชายามบ่ายที่นับได้ว่าเป็นไฮไลต์ของที่นี่ กับ Ferris Wheel Afternoon Tea ถอดแบบ London Eye ยกมาเสิร์ฟกันเลย
ใน 1 ชุด จะมีชา TWG ให้ 2 กา โดยสามารถเลือกรสชาติได้ เสิร์ฟมาพร้อมกับขนมอีก 10 อย่าง อย่างละ 2 ชิ้น
ชุด Afternoon Tea ให้บริการตั้งแต่ 14.30 – 17.30 น. ในราคาชุดละ 1,250 บาท++ ถ้าสั่งซื้อล่วงหน้าทาง http://bit.ly/2N2dIC9 จะเหลือเพียงชุดละ 1,000.- บาท net
บทสรุป
- ห้องพักคือดีมาก โดยเฉพาะหมอน และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน
- ชอบความ ” น้อยแต่มา เรียบแต่โก้ ” ของ Lobby
- อาหารเช้าดีงามมาก
- ชุด Aternoon Tea คือเลิศ
- รู้สึกปลอดภัยมากๆ เพราะมีสถานทูตมากมายอยู่รายล้อม
- ที่นี่ทำให้ตกหลุมรักการใช้ชีวิตในย่านใจกลางเมือง
- พนักงงานดูแลดีมาก บริการประทับใจ
- เสียดายตอนที่ไปฟิตเนสไม่เปิดให้บริการ
Oriental Residence Bangkok
Tel : 02 125 9000
website : Click Here
fb Page : www.facebook.com/OrientalResidenceBKK/
Instagram : @orientalresidencebkk
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ
ฝ้ายเอง
ติดตามเรื่องราวอีกมากมายได้ที่นี่
https://www.thetravel2gether.com/