แค่ Bali ยังไม่สุด เพราะจะไปหยุดที่ Komodo
จาก Bali ไปจนถึง Komodo 7 วัน 16 จุดเช็คอิน ที่อินโดนีเซีย
สำหรับการเดิน จาก Bali ไปจนถึง Komodo ครั้งนี้ เราใช้เวลากัน 7 วัน เที่ยวกันแบบอัดแน่นแทบทุกวัน ตั้งแต่เรียบง่าย ไปจนฟุ่มเฟือย ครบทุกรสชาติการเดินทางเลยหละ
Plan 7 วัน ของฝ้าย (19-25 ก.ค. 65)
- Day 1 : Dmk – Bali (Air Asia)
gate bali handara , ulundanu beratan temple - Day 2 : Bali
pura lempuyang luhur , Tirta gangga , Pura Besakih , Cepung waterfall , Tibumana waterfall - Day 3 : Bali – Nusa Penida (Speed Boat)
Dimond Beach , Kelingking Beach , Kuta Beach - Day 4 : Bali – Labuan Bajo (Air Asia)
Sunset at Port of Labuan Bajo - Day 5 : Labuan Bajo – Komodo (By Boat)
Padar Island , Rinca Island , Pink Beach - Day 6 : Luan Bajo – Bali (Citi Link)
Black Sand Beach Pengalon Karangasem - Day 7 : Bali – BKK (Thai Airways)
Tegallalang Rice Terrace
สำหรับการเตรียมตัวไปบาหลี คลิกเลย
การเดินทาง
- Bali ฝ้ายใช้บริการรถเช่าพร้อมคนขับ คนขับรถคือบริการดีมากกก แนะนำเลย คุณโอดี้
- Nusa Penida ซื้อทัวร์แบบ 1 Day Trip ราคารวมทุกอย่าง ค่ารถ รับ-ส่ง , ค่าเรือ ไป-กลับ , ค่ารถเช่าพร้อมคนขับตอนอยู่บนเกาะ ติดต่อผ่านคุณโอดี้ได้เลย
- Labuan Bajo เรียก Taxi จากสนามบินไปที่พัก แล้วก็ซื้อทัวร์ 1 Day Trip (แบบ Private) ไปเกาะ Komodo
ที่พักแต่ละคืน แนะนำไว้ในช่วงท้ายรีวิว
มาเริ่มกันเลยดีกว่า ว่า จาก Bali ไปจนถึง Komodo ทั้ง 7 วันของฝ้าย ไปไหน และแต่ละที่เป็นยังไงบ้าง
Noted* ทุกสถานที่เที่ยวยอดฮิตของบาหลี จะต้องเสียค่าเข้า และถ้าที่ไหนฮิตเป็นพิเศษ จะใช้เวลาในการต่อคิวถ่ายรูปนานมากกกกกกก
🌅 Day 1 : Check in 1 : Bali : Gate bali handara
Handara Gate เป็นประตูทางเข้าสนามกอล์ฟ อีกหนึ่งสถานที่สุดฮิตที่คนนิยมมาถ่ายรูปกัน คิวถ่ายรูปยาวอยู่
ถ้าใครจะเอาโดรนไปบินก็ต้องเสียเงินค่าบินโดรนเพิ่มนอกเหนือจากค่าเข้า
อยากมีรูปเดี่ยวต้องอดทนรอคิว
🌷 Day 1 : Check in 2 : Bali : Ulundanu beratan temple
วัดฮินดูเก่าแก่กลางทะเลสาบบราตันที่อยู่ถูกตีพิมพ์อยู่บนแบงค์ 50,000 IDR วัดนี้ภูมิทัศน์ดีมาก อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ สวยลงตัวในทุกองค์ประกอบ ทั้งทะเลสาบ ภูเขาไฟ รวมถึงวิหารทรงสูงที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่
ค่าเข้าชม คนละ 50,000 IDR
วัดนี้กว้างและบรรยากาศดีมากกก วันที่ไปมีหมอกลงพอดี
แสงกำลังสวยเลย
🍀Day 2 : Check in 3 : Bali : Pura lempuyang luhur
วัดเลมปูยางค์ หรือ อีกชื่อนึงคือวัดกระจก วัดนี้จัดว่าเป็นไฮไลต์ของบาหลีเลย เห็นภาพแล้วหลายคนก็ต้องร้องอ๋อ..ที่นี่นี่เอง ดังนั้นจึงไม่ควรพลาดที่จะไป
แนะนำว่าให้ไปถึงสักก่อน 7 โมง เพราะถ้าไปช้ากว่านี้คิวถ่ายรูปจะต้องนานมากมาก บางคนต้องรอกัน 3-4 ชั่วโมงเลย ฝ้ายออกจากที่พักในเมือง Ubud กันตั้งแต่ ตี 4 ครึ่ง ไปถึงก็ช่วงพระอาทิตย์กำลังขึ้นพอดี ไปเช้าขนาดนั้นยังนั่งรอต่อคิวถ่ายรูปเกือบชั่วโมง
สำหรับภาพสวยๆ ที่เราเห็นเหมือนเงาสะท้อนน้ำนั้น จริงๆ แล้วมันไม่มีน้ำ แต่คนถ่าย (เจ้าหน้าที่วัด) จะใช้กระเบื้องแกรนนิโต้สีดำเพื่อสร้างเงาสะท้อน ให้ภาพทุกภาพออกมาสวยงามตามที่เห็น โดยมีเวลาให้ถ่ายคนละประมาณ 2 นาที
เพียงเรายื่นโทรศัพท์ให้เค้า เค้าก็จะจัดแจงถ่ายภาพให้เราเสร็จสรรพ ด้วยฝีมือและเทคนิคอันช่ำชอง เรามีหน้าที่แค่เปลี่ยนท่าไปเรื่อย Next Pose ๆๆๆๆ เสียงจากคนถ่ายที่คนนั่งรอคิวจะได้ยินอยู่ตลอดเวลา ตอนถึงคิวถ่ายก็จะเหมือนซุปตาร์นิดๆ เพราะทุกสายตาจะจับจ้องมากดดันเรา เร็วๆ มีคิวเยอะ ฮาาาาาาาา เมื่อได้ภาพมาแล้วก็อย่าลืมให้สินน้ำใจคนถ่ายกันด้วยน้าาาา
ภาพสถานที่จริงเป็นแบบนี้
สำหรับวัดนี้ ไม่ว่าจะแต่งตัวเรียบร้อยไปขนาดไหน จะนุ่งกระโปรงยาวลากดินไป แต่ทั้งชายและหญิง ทุกคนจะต้องนุ่งโสร่ง โดยต้องเสียค่าเช่าโสร่งคนละ 10,000 IDR ส่วนค่าเข้าชมวัดก็แล้วแต่จะบริจาค
ระหว่างรอคิวถ่ายภาพอันแสนนาน ก็เดินเล่นถ่ายภาพแถวนั้นกันไปก่อน
คนบาหลีมาทำบุญกันพอดี
ขากลับเราเดินออกทางประตูกระจกที่คนมาต่อคิวถ่ายภาพ ก็ได้เห็นวิวประมาณนี้ ภูเขาไฟอากุง เผยโฉมออกมาให้เห็นพอดี
ระหว่างทางเดินขึ้นไปวัด จะมีร้านกาแฟอยู่ เป็นอีกจุดนึงที่น่าแวะถ่ายภาพ เพราะเป็นมุมที่มองเห็นภูเขาไฟอากุงชัดเจน คนที่ร้านใช้เทคนิคเงาสะท้อนกระจกให้เช่นกัน เป็นอีกมุมที่แนะนำให้ไป
วิวยามเช้าจากร้านกาแฟ สดชื่นมาก
💋 Day 2 : Check in 4 : Bali : Tirta gangga Water Palace
ที่นี่เป็นสวนน้ำหลวงของราชวงศ์บาหลีในสมัยก่อน ภายในก็จะมีสระน้ำขนาดใหญ่ หินที่เป็นบันไดทางเดิน แล้วก็ประติมากรรมต่างๆ ตามแบบของบาหลี แล้วในบ่อน้ำก็เต็มไปด้วยปลาคาร์ฟตัวโตหลากสี ที่ดึงดูดผู้คนให้มาถ่ายภาพที่นี่ แล้วก็ซื้ออาหารไปให้ปลา
ส่วนตัวฝ้ายไม่อินกับที่นี่ คือไปเพื่อถ่ายรูปกับปลาคาร์ฟ และปลาคาร์ฟฟฟ และปลาคาร์ฟฟฟฟฟ เสียค่าเข้าคนละ 10,000 IDR แล้วต้องเสียค่าอาหารปลาเพื่อล่อให้ปลามาตรงหน้าเราเยอะๆ อีก
ด้วยความที่ไม่อินกับปลาคาร์ฟ เลยออกมานั่งรอเพื่อนข้างนอก และคือวิวสวยมากกก ภูเขาไฟอากุงอันยิ่งใหญ่ ฟ้าแจ่มใสตัดกับความเขียวขจีของนาผืนน้อย
🍂 Day 2 : Check in 5 : Bali : Besakih Mother Temple
วัดเบซาเกีย (Besakih) หรือ Mother of temple เป็นวัดหลวงเก่าแก่อันศักดิ์สิทธิ์ของศานาฮินดู และใหญ่ที่สุดบนเกาะบาหลี มี Background เป็น Mt.Agung
และเช่นเคย ใครที่ไปเยี่ยมเยือนวัดนี้ต้องแต่งกายให้เรียบร้อย ทั้งชายและหญิงต้องนุ่งโสร่ง (ผู้หญิงที่นุ่งกระโปรงยาวคุมข้อเท้า ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นโสร่ง) ถ้าไม่ได้เตรียมไปทางวัดมีบริการให้เช่า
วัดนี้จะมีมัคคุเทศน์ท้องถิ่นสำหรับนำชม (บังคับว่าต้องใช้บริการ) โดยเราต้องจ่ายทิปเป็นสินน้ำใจ และต้องมากพอจนเค้าพอใจด้วยนะ
พื้นที่กว้างขวางมาก ระหว่างทางเดินขึ้นวัดก็จะมีของขายเรีงเป็นแถบ
บริเวณทางขึ้น
เนื่องจากวัดสร้างอยู่บนภูเขา ก็จะสร้างลดหลั่นกันมาเป็นชั้นๆ งดงามมาก วันที่ฝ้ายไปได้เจอกลุ่มผู้แสวงบุญกำลังเดินขึ้นไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้านบน เดินตั้งขบวนเป็นแถวยาว ก็ดูงดงามอลังการมาก
🐝 Day 2 : Check in 6 : Bali : Tukad Cepung waterfall
น้ำตกตูกัดเซปัง (Tukad Cepung Waterfall) ฝ้ายชอบที่นี่นะ มันดูลึกลับดี เหมือนเป็นน้ำตกที่อยู่ในถ้ำ ใช้เวลาเดินเท้าจากจุดจ่ายค่าเข้าประมาณ 15-20 นาที เป็นทางลงเขา เดินไม่ยาก เพราะเค้าทำทางไว้ดี
มีบันไดอย่างดี พอลงถึงด้านล่างก็ต้องเดินลุยน้ำกันไปอีกนิดหน่อย แนะนำว่าให้ใส่รองเท้าพร้อมเปียกไป เพราะทางที่ลุยน้ำจะเป็นหินขรุขระ จะเจ็บเท้าถ้าเดินเท้าเปล่า ระหว่างทางก็เหมือนเดินเล่นอยู่ในยุคจูราสลิส เขียวๆ ชื้นๆ ชื่นใจดี
และแน่นอน ว่าต้องเข้าคิวถ่ายรูปอีกเช่นเคย ถ่ายรูปค่อนข้างยาก เพราะไอจากน้ำตกจะฟุ้งกระจายอยู่ตลอดเวลา ถ่ายไปต้องคอยเช็ดเลนส์ไป ถ้าใครพกกล้องใหญ่ไปแบบไม่มี Cover ใดๆ กล้องก็จะชื้นๆ หน่อย
เป็นน้ำตกที่ถ่ายรูปยากมาก ขาตั้งกล้องก็ไม่มี ถึงมีก็ลากสปีดนานไม่ได้ เพราะคนยืนต่อคิวกดดัน แถมละอองน้ำฟุ้งกระจาย
ระหว่างทางเดินไปน้ำตก ดูลึกลับยุคไดโนเสาร์
🐜 Day 2 : Check in 7 : Bali : Tibumana waterfall
น้ำตกทิบูมานา (Tibumana Waterfall) ที่นี่เดินง่ายมาก แต่สำหรับฝ้ายคือไม่ได้ว้าวอะไรมาก คล้ายน้ำตกจ๊กกระดิ่งที่ทองผาภูมิบ้านเรา (จ๊อกกระดิ่งสวยกว่าอีก) สามารถลงเล่นน้ำได้
ทางเดินเดินง่ายมากๆ วันนี้มีสมาชิกมาสมทบเพิ่มอีก 1
🗾 Day 3 : Check in 8 : Nusa Penida : Dimond Beach
สำหรับวันนี้เราซื้อ Package 1 Day Trip ไปเที่ยวที่ เกาะ Penida กัน ลงเรือ Speed Boat เที่ยว 10 โมง ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึง Nusa Penida บนเกาะนี้เราเน้นเที่ยว 2 ที่ ก็คือ Diamond Beach และ Kelingking Beach
Diamond Beach ความโดดเด่นคือ โค้งหาดอันสวยงาม กับกองหินทรงสามเหลี่ยม ที่นี่เดินลงไม่ยาก แต่ถ้าคนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ก็เหนื่อยไม่ใช่เล่น
มุมมหาชน
เมื่อเดินลงไปด้านล่าง ก็จะได้สัมผัสความงามของทะเลบาหลีแบบใกล้ชิด
ทะเลบาหลีแทบทุกที่คือ คลื่นแรงมาก ต้องใช้ความระมัดระวังในการเล่นน้ำอย่างสูง
ทางลงบางช่วงก็ค่อนข้างหวาดเสียว (มาก)
🏝 Day 3 : Check in 9 : Nusa Penida : Kelingking Beach
Kelingking Beach มี Landmark คือ หน้าผาทีเร็กซ์ อันเป็นเอกลักษณ์ หาดนี้หลายคนอาจเคยไป แต่จะมีสักกี่คนที่เดินลงไปถึงด้านล่าง เพราะทางชันมากๆๆๆ คุณไก่ (แอดมินอีกคน) ชายโฉด ร่างกายกำยำ ยังถึงกับเป็นลมหน้าซีด
ภาพที่เห็นจากด้านบน
ทะเลคือสวยมาก มากแบบมากๆๆๆๆ
ทะเลด้านล่าง
ทางลงก็จะชัน และไกล ใครจะเดินควรพกน้ำติดไปด้วยนะ
คุณไก่ ถึงกับเป็นลม หน้าซีด ไม่ได้พกน้ำดื่มลงไป ต้องขอแบ่งปันจากนักท่องเที่ยวระหว่างนั่งเป็นลมอยู่กลางทาง
🌊 Day 3 : Check in 10 : Bali : Kuta Beach
Kuta หาดนี้ชิวมากกก คนนิยมมาเล่นเสิร์ฟกัน และเหมาะกับการ Hangout เป็นอย่างมาก และคือเป็นศูนย์รวมที่พักและความบันเทิงทุกรูปแบบ แถมอยู่ใกล้สนามบินมากๆ ด้วย
🕌 Day 4 : Check in 11 : Labuan Bajo
เช้าวันที่ 4 ได้เวลาบินต่อ จุดหมายหลักของเราทริปนี้คือหมู่เกาะ Komodo จ้า
วิธีการเดินทางที่ง่ายที่สุดก็คือนั่งเครื่องบินไป
https://www.thetravel2gether.com/komodo-kelimutu/
นั่งชมพระอาทิตย์ตกทะเลกันเพลินๆ และก็หมดไปอีก 1 วัน
⛰ Day 5 : Check in 12 : Komodo Trip : Parda Island
เราเลือกที่จะเหมาเรือไม้ไปกัน อาจจะเสียเวลาหน่อย แต่ก็ถูกกว่า Speedboat เป็นเท่าตัว ที่สำคัญ คือมีแค่พวกเรา จะยืดยาดถ่ายรูปถ่ายคลิปกันนานสักนิด ก็ไม่เป็นอะไร
ฝ้ายชอบเช้าวันนั้นมากกกกกกกกกก
บรรยากาศตอนใกล้จะถึงจุดหมายแรก
มุมเท่ห์ๆ ของ เจ้าของเพจ Seaday ฝากไปติดตามกันด้วยน๊าา
ท่าเทียบเรือที่ด้านล่าง เมื่อหกปีที่แล้วยังไม่มีแบบนี้นะ ต้องลงเรือพายลำน้อย เพื่อเข้าฝั่งมายังจุดนี้ และคือตอนนั้นนักท่องเที่ยวน้อยมากๆ ต่างกับปัจจุบันนี้โดยสิ้นเชิง
ระหว่างเดินขึ้นก็แวะถ่ายรูปได้เรื่อยๆ ภูเขาที่นี่ค่อนข้างแตกต่างจากบ้านเรา
ที่ตีนเขาทางเดินขึ้น มีฝูงน้องกวางทำหน้าที่เป็นพนักงานต้อนรับ
🦎Day 5 : Check in 13 : Komodo Trip : Rinca Island
Rinca Island เกาะนี้ไม่มีอะไรมาก ไปเพื่อดูมังกรโคโมโด ที่นอนแผ่หราอยู่แถวที่ทำการอุทยาน แล้วก็ไปต่อคิวถ่ายรูปกับมัน มีเส้นทางให้เดิน Hiking ด้วยนะ แต่พวกเราไม่เดินกัน เพราะร้อนแบบร้อนมากกกกก
นี่คือมังกรโคโมโด ดาวเด่นบนเกาะนี้ มีแต่คนต่อคิวถ่ายรูปด้วย (แบบระยะไกล)
🐚Day 5 : Check in 14 : Komodo Trip : Pink Beach
🌋 Day 6 : Check in 15 : Bali : Black Sand Beach Pengalon Karangasem
ช่วงสายในวันที่ 6 ของการเดินทาง เราก็บินกลับบาหลีกัน ก่อนเดินทางเข้าที่พักคืนสุดท้าย ก็ยังพอมีเวลาแวะเที่ยวระหว่างทางได้บ้าง
Black Sand Beach Pengalon Karangasem ชอบที่นี่มากก เป็นที่ที่ไม่ได้อยู่ในแพลน แต่พอได้ไปแล้วคือดีย์แบบไม่มีที่ติ เพราะดูดำๆ แล้วมีเสน่ห์
บาหลี เป็นเกาะที่มีชายหาดสีดำอยู่หลายหาด หาดที่ฝ้ายไป คือ Pengalon Karangasem ไปถึงตอนพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน แสงกำลังสวย
เม็ดทราย คือ ดำจริงๆ ดำสนิท ดำมากๆ เวลาแสงแดดตกกระทบ จะมี Glitter วิ๊งๆ สวยงาม ประทับใจ
ตอนเย็นคือบรรยากาศดี มีคนมาเล่นว่าวเต็มเลย
ที่นี่มีของกินแบบพื้นบ้านขายอยู่ริมหาดหลายร้านมากๆ **ควรสอบราคาก่อนซื้อ เห็นเราถามเป็นภาษาอังกฤษหน่อย ราคาจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว**
🌾Day 7 : Check in 16 : Bali : Tegalalang Rice Terrace
Tegalalang Rice Terrace เป็นจุดที่มีนาขั้นบันไดแบบยิ่งใหญ่มาก ผู้คนมากมายต่างก็แวะมาเยี่ยมเยียนที่นี่ แต่ช่วงที่ฝ้ายไป นาไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ก็ประมาณนี้
ที่พักแต่ละคืน (ตั้งแต่หลักพันยันหลักร้อย)
ที่พักที่บาหลีมีให้เลือกหลากหลายมาก ตั้งแต่คืนละหลัก 100 ไปจนถึงถึงคืนละหลักแสน อันนี้ก็เลือกกันตามรสนิยม ตามความหนาของเงินในเป๋าตังค์ได้เลยจ้า
สำหรับทริปนี้ฝ้ายพักตั้งแต่คืนละ 400 ยันคืนละ 9,000 เลยหละ แต่ละที่ แต่ละคืน ก็ตามนี้เลย
Bali
- Tu Sandat Homestay ที่นี่คือประทับมาก เพราะราคาถูก คุณภาพเกินราคา นอนห้องละ 2 คน ตกคนละ 200 กว่าบาท ห้องใหญ่มาก Location คือดีเวอร์ อยู่กลางเมือง Ubud เลย
- Zen Hideaway ที่พักสุดฮิต คืนละ 9000 กว่าบาท (นอนกัน 5 คน) รู้สึกไม่คุ้มกับที่นี่เลย เพราะกว่าแต่ถึงก็มืด แต่ยังต้องรีบ Check Out กันแต่เช้าตรู่ บรรบากาศก็ดีตามราคาที่นี่จะมีบ้านพักอยู่หลายหลัง เราพักกันหลังที่ 3 เป็นหลังที่ฮอตที่สุด ห้องอาบน้ำคือเปิดโล่ง ใกล้ชิดธรรมชาติมาก ต้องนัดกันทำสัญลักษณ์กับเพื่อนๆ ว่าแบบนี้คือมีคนใช้ห้องน้ำอยู่นะ
ที่นี่เป็นต้นกำเนิดของ Bali Swing (เล่นฟรี) ดูความต่างของ 2 นางนี้ คนนึงนางฟ้า ส่วนอีกคนนางคว้า
- Cara Cara Inn ที่พักที่นี่คือดีเลย ราคาไม่แพง ห้องสำหรับ 3 คน ประมาณ 1,200 บาท อยู่ใน Kuta ทำเลดีมาก ใกล้ชายหาด ใกล้แหล่ง Hangout แต่เสียดายวันที่ไปสระว่ายน้ำปิดปรับปรุง
- Sebatu Sanctuary Eco-resort ชอบที่มากๆ คืนละ 6,000 กว่าบาท ต่อหลัง (1 หลังพักได้ 2 คน) ราคารวมอาหารเช้า และของที่อยู่ในตู้เย็นสามารถทานได้หมด (ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม) ไหนๆ ก็ไปแล้วขอพักดีๆ สักคืน บ้านพักที่เราเลือกเป็นแบบ Bamboo Hut บ้านไม้ไผ่ 2 ชั้น ห้องน้ำอยู่ด้านล่าง และสิ่งที่ทำให้อยากกลับไปใช้บริการที่นี่อีก คือบริการของพนักงาน
คืนที่พักที่ Sebatu คืออากาศหนาวเลย คืนนั้นอยู่ที่ 19 องศา ใครไปพักย่านนั้น แนะนำให้ติดเสื้อกันหนาวไปด้วย
Labuan Bajo (2 คืน)
- Green Hill Boutique Hotel เราพักที่นี่กัน 2 คืน ระหว่างที่อยู่ Labuan Bajo คืนละประมาณ 1,400 บาท พร้อมอาหารเช้า สำหรับ 3 คน ทำเลดีมาก เดินไปนิดเดียวก็ถึงท่าเรือ เป็นที่พักที่อยู่บนเขา มองเห็นทะเลมุมสูงจากหน้าห้องเราได้เลยวิวทะเลจากหน้าห้องพักเรา สวยมากกก ชมพระอาทิตย์ตกทะเลจากตรงนี้ได้เลย
และสำหรับทริปบาหลี 7 วัน ของฝ้าย ก็มีประมาณนี้แหละ
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะคะ
ฝ้ายเอง
ขอบคุณเพจ Seaday ที่แบ่งปันภาพบางส่วนมาให้ได้ใช้ ฝากไปติดตามกันด้วยนะ
เรื่องราวอีกมากมาย ที่นี่
website : www.thetravel2gether.com
FB Page : www.facebook.com/thetravel2gether/
IG : instragram.com/thetravel2gether
instragram.com/yaiifai
Twitter : twitter.comtravel2getherth